วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ภูเก็ต




  • นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญส่งเสริมให้เป็น "healthy tourism" ตามโครงการความร่วมมือส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน ตามข้อตกลงในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 หรือ อาเซียน ซัมมิท ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยได้ข้อสรุปว่าประเทศไทยจะเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวที่ปลอดโรค เพราะเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมและมีศักยภาพ ซึ่งขณะนี้ สธ.อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อพัฒนาพื้นที่และควบคุมไม่ให้เป็นแหล่งแพร่โรค ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ก็จะต้องเลือกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญพัฒนาเป็นพื้นที่ปลอดโรคเช่นเดียวกัน

    นพ.คำนวณกล่าวว่า สำหรับโรคที่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นตามข้อตกลงที่ประชุมอาเซียน ประกอบด้วย 1.โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหาร และน้ำที่ไม่สะอาด เพราะขาดแคลนน้ำประปา 2.โรคไข้เลือดออก มีพาหะมาจากยุง มีนักท่องเที่ยวถูกยุงกัดแล้วกลายเป็นโรคไข้เลือดออก 3.โรคพิษสุนัขบ้า ต่อไปต้องมีการควบคุมดูแลสุนัขจรจัดเพราะอาจมีโรคพิษสุนัขบ้า และ 4.โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ โรคลีเจียนแนร์ เป็นต้น ทั้งนี้ ในรอบปีที่ผ่านมาพบว่า มีชาวต่างชาติป่วยเป็นโรคลีเจียนแนร์ ราว 5-7 ราย ส่วนโรคไข้เลือดออกเฉพาะชาวสวีเดนพบว่ามีผู้ป่วยประมาณ 10 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนไม่มาก ต่อไปหากพบว่า จ.ภูเก็ต มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ หรือโรคระบาดเหล่านี้จะมีการบันทึกไว้ และเป็นกติกาว่าบริษัททัวร์ต่างชาติจะไม่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ที่ยังมีการระบาดของโรค จนกว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้จนเป็นสถานที่ปลอดโรค จึงจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ได้ หัวใจของเรื่องนี้อยู่ที่ผู้ประกอบการ และท้องถิ่นจะต้องร่วมมือกันในฐานะผู้ลงมือปฏิบัติ
  •